Master Bearings

DGBB | SABB | ACBB | CRB | SRB | CARB | TRB| TBB | CRTB/NRTB| SRTB | Y-BEARING | HOUSING | SLEEVES| PLAIN | NRB
Radial shaft | Mechanical | V-ring| Axial clamp| Wear sleeves| Other
Roller Chains | Couplings | Pulley | Optibelt
Linear Motion System | Sensorized Units
RS | Online | Aptitude

Optibelt

 

สายพาน (Optibelt)

เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าผู้ใช้ตลับลุกปืน เอส เค เอฟ บริษัท เอส เค เอฟ(ประเทศไทย) จำกัด จึงได้สรรหาผลิตภัณฑ์เสริมให้แก่ผู้จัดซื้อและผู้ใช้ทุกท่าน เพื่อให้ได้รับสินค้าจากแหล่งเดียวกัน บริษัท เอส เค เอฟ(ประเทศไทย) จำกัด จัดจำหน่ายสายพาน Optibelt ผลิตจากเยอรมันโดยบริษัทที่มีอายุเก่าแก่ถึง 131 ปี ท่านสามารถจัดซื้อได้จากผู้แทนจำหน่าย SKF ทุกรายทั่วประเทศ สายพาน Optibelt เป็นสายพานคุณภาพสูงจากเยอรมัน มีเทคโนโลยีการผลิตที่ก้าวหน้าทันสมัยที่สุด ใช้เฉพาะวัตถุดิบที่ดีที่สุด ตลอดจนทีความพิถีพิถันในการควบคุมการผลิตทุกขั้นตอน นอกจากนั้นยังมีคุณสมบัติพิเศษอีกหลายประการแล้วแต่ชนิดของสายพาน สายพานแต่ละเส้นมีพิกัดขนาดเท่าเทียมกันมากที่สุด จึงสามารถใช้งานร่วมกันได้หลายเส้นโดยไม่ต้องวัดเทียบขนาด ง่ายต่อการเปลี่ยนทดแทน

1. Optibelt V-Belt S = C Plus

ด้วยกระบวนการผลิตของ Optibelt ที่ทำให้สายพานทุกเส้นมีความยาวเท่ากัน หรือที่เรียกว่า ORV ซึ่งให้ความร้อนที่ลูกกลิ้ง และ สายพานจะถูกตั้งให้ตึงแล้วหมุนจัดให้สายพานถูกกดในร่องมู่เล่ย์ที่มีความร้อนเพื่อให้สายพานที่เป็นชั้นยงให้ละลายเป็นเนื้อเดียวกัน

คุณสมบัติ

 
 

• ให้ค่าความเผื่อที่ทำได้ +, - 2 mm. สำหรับ V-Belts เก็บสต็อกโดยไม่ต้องสั่งพิเศษให้ยาวเท่ากันเป็นชุด

 

• ประหยัดพลังงานเพราะฉุดกำลังได้เต็มที่กรณีใช้หลายเส้นบนมู่เล่ย์เดียวกันเนื่องจากความยาวเท่ากัน

 

• ความยาวที่พิมพ์ไว้บนสายพานไม่ยาวกว่ามรตรฐานที่กำหนด

 

• การยึดตัวของสายพานต่ำ

 

• ลดความสั่นสะเทือนขณะหมุน

 

• ช่วยยืดระยะเวลาการซ่อมบำรุงได้

       

2. Optibelt V - Belt Red Power II

การพัฒนาขึ้นไปอีกระดับของระบบส่งกำลังงานด้วยสายพาน ด้วยวัสดุและการผลิตพิเศษช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายกว่าสายพานแบบธรรมดาถึง 20 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากไม่ต้องดูแลรักษามาก สามารถส่งถ่ายกำลังงานได้มากกว่า 42 เปอร์เซ็นต์ เหมาะสำหรับงานในอุตสาหกรรมหนัก เช่น โรงโม่หิน โรงปูน โรงไฟฟ้า เป็นต้น

 

 

สายพานที่มีร่องฟัน Optibelt V-Belts Super X-Power M=S

ด้วยการบวนการผลิต เนื้อยางหลักผสมกับเส้นใยผ้าใบผ่านการหล่อขึ้นรูปด้วยเครื่องสร้างสายพาน (Drum building machine) และให้ความร้อนด้วยการอบภายใต้อุณหภูมิและความดันที่ควบคุมโดย Optibelt ทำให้สายพาน Optibelt V-Belts Super x-power m=s มีความแข็งแรงกว่ารุ่นเดิมคือ TM M=S สามารถลดจำนวนสายพานที่ใช้ปกติ 6 เส้น ให้เหลือ 5 เส้นได้ ประหยัดกว่าแข็งแรงกว่า

คุณสมบัติ

 

• ไม่ต้องวัดก่อนการติดตั้ง

 

• ให้ค่าความโค้งงอที่สูงมาก

 

• ใช้กับมู่เล่ย์ที่มีขนาดเล็กได้

 

• ไม่ลื่นไถลระหว่งการใช้งาน

 
 

• ใช้กับงานส่งถ่ายกำลังงานที่หนักหน่วง

 
 

• ใช้กับบริเวณงานที่มีความร้อนสูง

 
       

3. สายพานไทม์มิ่ง Optibelt CR (Chlorprene CR)

คุณสมบัติ

 

• ส่งถ่ายกำลังงานเป็นจังหวะเวลา

 
 

• มีความแม่นยำในการขับเคลื่อนสูง

 
 

• ไม่จำเป็นต้องตั้งความตึงเพิ่ม

 
 

• มีประสิทธิภาพสูง 98 เปอร์เซ็นต์

 
 

• น้ำหนักน้อยทำหี้แรงเหวี่ยงต่ำ

 
 

• มีการส่งถ่ายกำลังสูงกว่า เมื่อเทียบกับสายพานร่องวี

 
 

• ไม่ต้องตั้งความตึงสูงทำให้มีแรงกระทำต่อตลับลูกปืนต่ำ

 
 

• ตั้งระยะเซ็นเตอร์ได้โดยไม่ต้องใช้มู่เล่ย์ปรับความตึง

 
 

• เสียงรบกวนต่ำเมื่อเทียบกับระบบส่งกำลังแบบอื่น ๆ

 
       

4. สายพานไทม์มิ่งแบบโพลียูรีเทน Optibelt PU (Polyurethane)

คุณสมบัติ

 

• ต้านทานรอยสึกที่สูงกว่า

 
 

• ต้านทานต่อน้ำมัน ไขมัน เป็นต้น

 
 

• ต้านทานออกซีเจนที่มี 3 อะตอมในหนึ่งโมเลกุลกับแสงอุลตร้าไวโอเล็ต

 
 

• ลดไฟฟ้าสถิต

 
 

• ทนต่อรอยขีดข่วน

 
 

• ต้านทานความชื้นสัมพัทธ์ที่สูงกว่า

 
 

• รับแรงที่หน้าตัดฟันสูงกว่า

 
 

• ต่อเชื่อมได้

 
 

• เป็นฉนวนกันความร้อน

 
 

• ให้ความแม่นยำในการจัดวางตำแหน่งที่สูงมาก

 
       

Optibelt Drive Service

 

เรายังมองระบบการบริการเพิ่มคุณค่าด้วยการให้คำปรึกษา แนะนำ และฝึกอบรมเพื่อให้ท่านมีความรู้ในการติดตั้งสายพานและเช็ครายละเอียดดังต่อไปนี้

 

• การคัดเลือก ออกแบบ และการคำนวณ เพื่อเลือกใช้สายพานที่ถูกต้อง

 
 

• การตั้งความเที่ยงตรง ลดการเยื้องศูนย์

 
 

• ค่าความตึงของสายพาน

 
 

• ความถูกต้องของระบบงานขับด้วยสายพาน

 

การตรวจเช็คระบบกำลังงานด้วยสายพาน

Optibelt Laser Pointer

การพลิกตัวของสายพานหรือการหลุดออกจากมู่เล่ย์ส่วนใหญ่เกิดจากการเยื้องแนวของสายพาน มู่เล่ย์ส่วนใหญ่เกิดจากการเยื้องแนวของสายพาน การเยื้องแนวมี 3 ลักษณะคือ การเยื้องแนวในแนวขนาน การเยื้องแนวในแนวราบ และการเยื้องแนวแบบหักเหในแนวตั้ง ปัญหาต่าง ๆ เหล่านี้เกิดจากสาเหตุหลักคือ

 

1. การเกิดเยื้องแนวของสายพาน

 

2. การตั้งค่าความตึงไม่ถูกต้องและไม่สัมพันธ์กับ Load ที่ใช้

 

3. ร่องของมู่เล่ย์เกิดการสึกหรอ สามสาเหตุหลักนี้สามารถตรวจสอบได้โดยใช้เครื่องมือที่ถูกต้องกับลักษณะของงาน

การตรวจวัดค่าแรงดึงของสายพานด้วย Optikrik

การใช้เครื่องมือ Optikrik ตรวจสอบค่าความตึงทำให้แก้ปัญหาสายพานลื่นไหล (slip) ได้ เนื่องจากการลื่นไหลเกิดจากสายพานที่มีความตึงไม่สัมพันธ์กับ load กับการใช้งาน ซึ่งค่าความตึงของสายพานแต่ละขนาดไม่เหมือนกัน ดังนั้น Optikrik จึงมีให้เลือกใช้ได้ถึง 4 ชนิด ดังนี้

Optikrik 0 ช่วงการทำงาน 10 – 15 N

Optikrik 1 ช่วงการทำงาน 150 – 600 N

Optikrik 2 ช่วงการทำงาน 500 – 1400 N

Optikrik 3 ช่วงการทำงาน 1300 – 3000 N

ทั้งนี้ ควรเลือกใช้ให้ถูกต้องกับลักษณะของ load การใช้งาน

 

V – Belt Pulley Gauge

การพลิกและการเต้นของสายพานไม่ได้อยู่กับการเยื้องแนวเพียงอย่างเดียว แต่ขึ้นอยู่กับร่องของมู่เล่ย์ด้วย ถ้าร่องของมู่เล่ย์สึกหรอหรือจมลึกไม่เท่ากัน ก็ทำให้สายพานเกิดการเต้น และตึงหย่อนไม่เท่ากัน ทั้งนี้ ควรตรวจสอบด้วย V – Belt Pulley Gauge เพราะมุมของมู่เล่ย์ไม่เท่ากันขึ้นอยู่กับขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของมู่เล่ย์ โดยทั่วไปมุมของร่องมู่เล่ย์จะอยู่ที่ 32 องศา, 34 องศา, 36 องศา, 38 องศา สำหรับสายพานระบบ BS3790 และ DIN2217 และมุม 36 องศา, 38 องศา, 40 องศา, 42 องศา สำหรับระบบ USA Standard RMA/MPTA